top of page

BLOG

LIBOTHAI

5 วิธีตรวจสอบและประเมินบ้านมือสอง

อัปเดตเมื่อ 17 เม.ย.



ปัจจุบันบ้านใหม่มีราคาสูงมากขึ้น ส่งผลให้หลายคนพิจารณาเลือกบ้านมือสองเพื่ออยู่อาศัย ซึ่งคุณสมบัติของบ้านมือสองและบ้านมือหนึ่งค่อนข้างที่จะใกล้เคียงกัน ทั้งบ้านมือสองยังสามารถนำไปลงทุนต่อยอดเป็นธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ได้อีก

ข้อสังเกต การเลือกซื้อบ้านมือสองเพื่อให้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปต้องมีการตรวจสอบอย่างรายละเอียดถี่ถ้วนก่อนซื้อ ซึ่งปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณา ได้แก่ 

1. สถานะที่ดินและบ้าน ผู้ซื้อควรตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับที่ดินที่บ้านหรือสิ่งปลูกสร้างถูกสร้างขึ้น ตรวจสอบโฉนดที่ดิน และเลขที่บ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน กรณีบ้านหรือสิ่งปลูกสร้างที่สร้างบนที่ดินที่มีการเช่าจำเป็นต้องตรวจสอบระยะเวลาและเงื่อนไขของสัญญาเช่าเพื่อมิให้เกิดข้อพิพาทในเรื่องกรรมของกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้

2. ขนาดของบ้าน การวัดพื้นที่ใช้สอยของบ้านเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการประเมินราคา ผู้ซื้อควรวัดพื้นที่ (โดยใช้เครื่องมือที่มีระยะตั้งแต่ 20-50 เมตร) เพื่อคำนวณพื้นที่รวมเป็นตารางเมตร โดยพิจารณาขนาดของแต่ละชั้นของบ้าน

3. สภาพและการบำรุงรักษาบ้าน สภาพของบ้านมือสองมีลักษณะแตกต่างกันไปตามอายุและการบำรุงรักษา การว่าจ้างช่างผู้เชี่ยวชาญประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมประเมินและปรับปรุงบ้านเพื่อช่วยกำหนดอัตราการเสื่อมสภาพหรือการซ่อมแซมอันส่งผลต่อมูลค่าของบ้าน

4. วัสดุก่อสร้างและคุณภาพ การประเมินวัสดุโครงสร้างหลัก คุณภาพการก่อสร้าง และฝีมือเป็นสิ่งสำคัญในการประเมินมูลค่าของทรัพย์สิน การเลือกวัสดุและระดับฝีมือของช่างมีบทบาทสำคัญในการกำหนดมูลค่าโดยรวมของบ้าน

5. การตรวจสอบความเป็นเจ้าของบ้าน ผู้ซื้อควรขอหลักฐานการแสดงกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของบ้าน อาทิ เอกสารซื้อขาย หรือกรณีเริ่มการก่อสร้างใหม่ ตรวจสอบใบขออนุญาตก่อสร้างซึ่งสามารถใช้เป็นหลักฐานการเป็นเจ้าของได้

หากผู้ซื้อพิจารณาปัจจัยเหล่านี้อย่างละเอียดรอบคอบจะส่งผลให้สามารถตัดสินใจเลือกซื้อหรือลงทุนบ้านมือสองได้อย่างมีคุณภาพ คุ้มค่ากับการลงทุน ตรงกับความต้องการและงบประมาณที่ตนคาดหมายไว้

bottom of page